บริษัท มาสเตอร์ทีม จำกัด

เหยื่อสาวแฉกลโกงมิจฉาชีพหลอกตุ๋นเงินประกัน : สายตรวจระวังภัย โดยปฏิญญา เอี่ยมตาล

การทำประกันภัยให้รถยนต์ ถือเป็นอีกหลักประกัน ที่เจ้าของรถหลายๆ คนมักจะเลือกใช้ เพราะหากรถเกิดประสบอุบัติเหตุ ก็จะเป็นเครื่องการันตีได้เลยว่า รถของท่านจะสามารถเข้ารับบริการต่างๆ ได้อย่างโล่งใจ ด้วยเหตุนี้จึงมีเหล่าตัวแทน หรือพนักงานขายประกัน ทั้งที่สังกัดบริษัทจริง หรือใช้บริษัทบังหน้า เพื่อแสวงหาผลประโยชน์

เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เมื่อ "สายตรวจระวังภัย" ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ เมื่อ น.ส.หญิง (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ได้ออกมาเล่าถึงพฤติกรรมของคนร้าย ที่แอบอ้างเป็นพนักงานขายประกันภัยรถยนต์บริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง พร้อมกับฝากเตือนประชาชนอย่าได้ไปหลงเชื่อ จนตกเป็นเหยื่อเหมือนเธอ เพราะมาถูกหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยม ทั้งที่ตัวเธอเองก็ไม่คาดคิด

ผู้เสียหายรายนี้ เล่าว่า ขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ก็มีพนักงานสาวขายประกันบริษัทชั้นนำ ได้โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือ โดยบอกว่า ประกันภัยที่ทำอยู่ใกล้จะหมดลงแล้ว และบริษัทก็มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์กับบริษัทค่ายรถ (ญี่ปุ่น) แห่งนี้ พร้อมบอกข้อมูลและรถที่ใช้งานอยู่อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรุ่น สี ทะเบียน เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่ ซื้อมาเมื่อไหร่และประกันจะหมดเมื่อไหร่

“เขารู้ข้อมูลของเราทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้จริงๆ จึงตัดสินใจทำประกันไป ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นตัวแทนจากส่วนกลางอยู่ กทม. ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษต่อประกันชั้น 3 บวกในราคา 3,500 บาทเท่านั้น จึงตอบตกลงทำประกันกับเขาไป โดยทางปลายสายบอกว่า พี่ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะบริษัทมีข้อมูลอยู่แล้ว เพียงแค่โอนเงินมาเท่านั้น แล้วจะส่งกรรมธรรม์ไปให้ จากนั้นเขาก็บอกเลขบัญชีมาเป็นชื่อบัญชีบุคคล ซึ่งก็ได้ถามเขากลับไปว่า ไม่ใช่บัญชีบริษัทหรือ เขาตอบว่า เป็นบัญชีของหัวหน้า ไม่ต้องห่วง ไม่มีปัญหา และย้ำด้วยว่า เงินแค่นี้ไม่เอาชื่อเสียงของบริษัทมาเสี่ยงให้เกิดความเสียหาย แถมยังบอกด้วยว่า จะทำการยกเลิกประกันภัยที่ใกล้หมดอายุอีกเพียงไม่กี่วันให้"

ต่อมาเมื่อถึงวันที่ประกันชั้น 1 หมดอายุจริงๆ ก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันโทรศัพท์เข้ามาถามว่า จะต่อประกันกับทางบริษัทหรือไม่ เมื่อได้ฟังแล้วก็ต้องตกใจ จึงตอบกลับไปว่า ไหนว่ายกเลิกให้ไปแล้ว ซึ่งปลายสายแจ้งกลับมาว่า ยังไม่มีการยกเลิก จนกว่าจะสิ้นสุดการประกัน เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ จึงทราบว่าตัวเองนั้นถูกหลอก และเงินจำนวน 3,500 บาทคงไม่ได้คืน จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตำรวจแจ้งว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความในลักษณะเช่นนี้เกือบ 10 รายแล้ว

ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้เอาไว้ได้ ซึ่งเขารับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะต้องการนำเงินมาใช้จ่าย โดยที่เป็นพนักงานบริษัทประกันภัยชื่อดังจริงๆ ซึ่งแต่ละครั้งจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง และเพิ่งซื้อรถมาใหม่ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการทำประกันภัยรถยนต์ ฉะนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงเป็นอุทาหรณ์เตือนระวังภัย ให้ระวังกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ ที่มักแฝงตัวมาในทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่การขายประกันภัยรถยนต์

ที่มา : คมชัดลึก